วันจันทร์ที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

จิตใต้สำนึกไม่ใช่เรื่องธรรมดา

วันนี้ได้ไปอ่านโพสต์ของครูอ้อย  ฐิตินาถ  ณ  พัทลุง   ในแฟนเพจ "เข็มทิศชีวิต  ฐิตินาถ  ณ  พัทลุง"  ถึงกับอึ้ง   เพราะเรื่องราวของลูกศิษย์ครูอ้อยที่ชื่อคุณเอ๋   เรื่องราวอย่างกับนิยาย   พ่อกับแม่อยู่ด้วยกันไม่ได้ต้องเลิกกัน  ลูกก็เลยมีปม  ทำหลายอย่างไม่ต่างจากนิสัยที่ตนเกลียดในตัวพ่อ   โกรธพ่อจนพ่อเสีย  สุดท้ายก็เลยรู้สึกผิดทุกวัน   ยังดีตรงที่คุณเอ๋ตัดสินใจไปเรียนกับครูอ้อย  ฐิตินาถ ณ  พัทลุง  ผู้เชี่ยวชาญด้านจิตใต้สำนึก   ครูอ้อยพาคุณเอ๋เข้าทรานส์  (ล้วงลึกเข้าไปในจิตใต้สำนึกในภาวะที่คลื่นสมองผ่อนคลายที่สุด)   คุณเอ๋เลยได้เห็นว่าที่จริงตนเป็นที่รักเสมอ  และแม้พ่อจะเสียไปแล้ว  แต่การคลายปมครั้งนี้ก็ไม่ได้สูญเปล่า   เพราะการคลายปมครั้งนี้ทำให้คุณเอ๋ได้สร้างชีวิตครอบครัวที่งดงามให้ยั่งยืนต่อไป

และนี่คือเรื่องเต็มที่เราเอามาให้อ่านกัน
 Pinyalak Bunnag Dharachandra

ตอนแรกที่ลงเรียนเข็มทิศชีวิตมั่งคั่งกับครูอ้อยคิดว่า เรียนเรื่องธุรกิจล้วน ๆ ทรานซ์อะไรมาปมฉันหมดแล้ว เรื่องเกี่ยวกับแม่ได้แก้ไปแล้วใน ตอนรียนกับครูอ้อยในหลักสูตรHypno 6 แต่มาทรานซ์คราวนี้กลับได้รู้ได้เห็นเยอะมาก ๆๆๆๆ ถึงจะไม่หมดพลังเหมือนคราวที่แล้วแต่ก็ปางตายในบางวันเลยทีเดียว

มาคราวนี้ได้เห็นอะไรเกี่ยวกับพ่อเยอะมาก นึกมาตลอดว่าเราโคตรรักพ่อเลย ไม่เคยโทษหรือว่าอะไรพ่อเลย ทั้ง ๆ ที่เค้าติดการพนัน ติดหนี้คนมากมาย พ่อขายของในบ้านที่มีค่าทั้งด้านมูลค่าและของมีค่าทางใจลูกเมีย มีคนมาทวงหนี้แม่บ่อยมาก ๆ

พ่อแต่งงานเข้ามาอยู่บ้านแม่ที่เป็นครอบครัวคนจีนครอบครัวใหญ่ เพราะคุณตาและคุณยายไม่ยอมให้แม่ไปอยู่ที่อื่น ทำให้พ่อมีที่ยืนน้อยลง ทั้งจากทัศนคติคนในบ้านและจากการกระทำของพ่อเองด้วย

ช่วงเราอายุประมาณ 15-16 เป็นวันที่แตกหักกันระหว่างพ่อแม่ เราจำไม่ได้ว่าเกิดเหตุการณ์อะไร เหมือนพ่อมีเรื่องกับน้องสาวคนเล็กแม่ แล้ววันนั้นพ่อก็หิ้วกระเป๋าออกจากบ้านไปพร้อมน้องชายเรา

เราคิดเสมอว่าไม่เป็นไร เดี๋ยวพ่อก็กลับมา มันนานขึ้นเรื่อย ๆ แล้วแม่ก็พาน้องกลับมา พอนานวันเราก็คิดว่าเราหายอาการโลกแตกแล้ว จนวันนึงมาเปิดลิ้นชักเจอใบหย่าของพ่อแม่

นี่สิคืออาการโลกแตกอย่างแท้จริงสำหรับเรา แม่บอกว่าหลังจากนั้นเราก้าวร้าวขึ้นโดยไม่รู้ตัว แต่เรายอมรับกับทุกคนเลยว่าพ่อแม่เลิกกัน เราไม่มีปมเลย ไม่ใช่เด็กมีปัญหา

หลังจากพ่อเลิกกับแม่ พ่อไม่ได้มีคนใหม่ พ่อจะโทรมาเสมอๆ พ่อบอกอยากไปทานโน่นนี่นั่นเราก็บอกอย่างเดียวเลยว่างานยุ่ง ไม่มีเวลา ไปไม่ได้เลย แล้วเราก็ย้ายไปทำงานต่างจังหวัด

มีอยู่วันนึง ซึ่งยุ่งมากจริง ๆ พ่อโทรมาตอนเที่ยง ถามพ่อว่ามีอะไรหรือป่าว ตอนนี้ยุ่งมากเด๋วโทรกลับนะ พ่อบอกว่า ไม่มีอะไรหรอก แค่อยากจะบอกว่าคิดถึงลูกนะ แล้วก็วางไป

เราลืมไปเลยจนห้าทุ่ม ก็ไม่กล้าโทรไป คิดว่าพ่ออาจจะหลับแล้ว สมัยนั้นยังมีการใช้เพจเจอร์ ตอนหกโมงเช้าได้รับข้อความให้โทรเข้าศูนย์ พอโทรไป

เค้าบอกว่าข้อความที่ฝากไว้คือ พ่อตายแล้วโทรหาอาด้วย วินาทีนั้นมันช่างเจ็บปวดปางตายเลยทีเดียว

ตั้งแต่วันนั้นจนวันนี้ไม่มีวันไหนไม่รู้สึกผิดเลย สิ่งที่เราได้จากทรานซ์นี้คือ เราเพิ่งรู้ตัวว่าจริง ๆ แล้วเราโกรธพ่อมาตลอด ตั้งแต่เค้าออกจากบ้านไป โกรธที่เค้าไม่ทำงานอะไรให้มันดีหรือสุด ๆ มีแต่สร้างหนี้สินให้แม่ โกรธที่เค้าหนีปัญหาออกจากบ้านไปในวันนั้น

เราโกรธแม่ที่หย่ากับพ่อ แล้วยังไงล่ะ เราน่ะเก็บมาทุกอย่างในตัวเราเลย พอเริ่มทำงานเรามีบัตรเครดิตโน่นนี่นั่น เราสร้างหนี้มากมายเช่นกัน มีแฟนมากี่คนก็คิดแต่ว่าไม่มีรักไหนที่จบสวยงามหรอก สุดท้ายก็ต้องเลิกกัน เลยชิงเลิกก่อนหมด (ดีนะที่แฟนเก่า ๆ ก็ไม่ได้ดีกับเราจริง ๆ ด้วย) จนคนรอบข้างบอกว่า เราเป็นเจ้าสาวที่กลัวฝน ไม่ยอมแต่งงานแม้จะมีแฟนมาแล้วหลายคน

แม่มักบอกว่า หย่าแล้วมีความสุขมากขึ้น หย่าแล้วจบ หมดเรื่องกัน ตลอดเวลาเราก็คิดว่าดีนะที่แม่มีความสุขมากขึ้น แต่เราไม่ชอบฟังเลยลึก ๆ แล้ว พอเราแต่งงานมีครอบครัว ลูกเริ่มเข้าโรงเรียนเราก็เลิกทำงาน (เพิ่งมารู้ว่า อยากสบาย มีสามี้เลี้ยง เพราะคนชอบบอกว่าโชคดีจัง) โดยอ้างว่าทำไม่ไหวแล้วเครียดมาก เบื่อเจอแต่คนที่ทำร้ายเราที่ทำงาน สามีก็ยอม

สามีเป็นคนดีมาก ๆๆๆ ยอมทุกอย่าง แต่พอทะเลาะกันทีไร เราจะบอกเลิกเค้าตลอด หย่า หย่า หย่า เป็นทางออกทีดีที่สุด แต่เค้าไม่เคยยอมตลอดระยะเวลาเกือบ 14 ปี จนมาเรียนกับครูอ้อย ได้เห็นอะไรหลายอย่าง เห็นทั้งพ่อและแม่ และตัวเราเองมาก ๆ เข้าใจพ่อแม่แล้ว

สิ่งที่เราไม่ชอบแต่เราเก็บมาทำ ทำร้ายคนที่เรารักและรักเรามากที่สุด ตั้งแต่จบเข็มทิศจิตใต้สำนึก Hypno 6 มาจนเข็มทิศมั่งคั่ง Wealth 5 ยังไม่เคยบอกขอเลิกกับเค้าอีกเลยค่ะ มีแต่บอกรักเค้ามากขึ้น ๆ คนดี ๆ อย่างนี้จะปล่อยเค้าไปได้ยังไง

เรารักตัวเองมากขึ้น เห็นคุณค่าในตัวเอง เห็นเลยว่าเรานี่แหละคู่ควรกับคนดี ๆ เข้าใจพ่อแม่และให้อภัยเค้าและคนรอบตัว


น่าสนใจจริงๆ  เรื่องจิตใต้สำนึกเนี่ยะ